แนวข้อสอบ แผนกตรวจทางเคมี สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ปี 67-68
ถาม – ตอบ การควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการ
*******************
1. การควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการ หมายถึงอะไร
ตอบ หมายถึง การดำเนินการของห้องปฏิบัติการในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบความถูกต้องของการทดสอบ เพื่อให้ เกิดความน่าเชื่อถือของผลการทดสอบก่อน รายงานผล
2. การควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการ มีชื่อภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
ตอบ Internal quality control หรือ IQC
3. การควบคุมคุณภาพภายในปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
ตอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลการทดสอบว่ามีความเที่ยง และความแม่นยำ และเป็นการควบคุมไม่ให้ผลการทดสอบเบี่ยงเบนไปจากมาตรฐานที่กำหนด
4. แผนการควบคุมคุณภาพที่ดี ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ แผนการควบคุมคุณภาพที่ดี ประกอบด้วย
Method validation เป็นกระบวนการยืนยันความถูกต้อง ความเหมาะสมของวิธีการวิเคราะห์ที่พัฒนาขึ้น มาเพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ตัวอย่าง เพื่อให้ทราบถึงคุณสมบัติ เงื่อนไข หรือข้อจำกัดของวิธีการนั้นๆ ซึ่ง วิธีการทำ Method validation จะประกอบด้วย Accuracy, Precision, Selectivity, Sensitivity ,Limit of detection, Limit of quantitation ,Linearity และ Range
Method Verification เป็นการทดสอบเพื่อที่จะประกันว่าวิธีการวิเคราะห์มาตรฐานหรือวิธีการวิเคราะห์ อ้างอิงที่จะนำมาใช้ในห้องปฏิบัติการมีความถูกต้อง แม่นยำ เป็นไปตามคุณสมบัติที่กล่าวไว้ของวิธีวิเคราะห์ นั้นๆ โดยทั่วไป Method Verification จะเป็นส่วนหนึ่งของ Method validation ซึ่งวิธีการทำ Method Verification จะประกอบด้วย Accuracy, Precision, Sensitivity และ Linearity
การควบคุมคุณภาพสม่ำเสมอ (routine quality control) เป็นการควบคุมคุณภาพผลการทดสอบใน ระหว่างการทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการทดสอบมีความถูกต้อง แม่นยำ และมีความน่าเชื่อถือ โดยทั่วไปการ ควบคุมคุณภาพการทดสอบ จะประกอบด้วย การตรวจสอบแบลงค์ (blank check) ,การวิเคราะห์สารมาตรฐาน สำหรับการตรวจสอบกราฟ (Calibration Check Standard), การวิเคราะห์ซ้ำ (Duplicates), การวิเคราะห์การ กลับคืนของสารที่ทราบปริมาณ (recovery of known addition)และการทำแผนภูมิควบคุมคุณภาพ (Control chart)
5. การควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการ ได้แก่อะไรบ้าง
ตอบ การควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการ ได้แก่
1) การวิเคราะห์ตัวอย่างควบคุม (QC sample) ได้แก่ CRM (Certrified Reference Materials)
2) การวิเคราะห์ reagent blank หรือ blank ของวิธีทดสอบ
3) การวิเคราะห์ซ้ำในตัวอย่างเดียวกัน (duplicate)
4 การวิเคราะห์ spiked sample หรือ การหาค่า % การคืนกลับ (%recovery)
5) การสอบเทียบ และตรวจสอบสมรรถนะ (performance) ของเครื่องมือ
6. การวิเคราะห์รีเอเจนต์ แบลงค์ หรือแบลงค์ของวิธีทดสอบ หมายถึงอะไร
ตอบ หมายถึง การวิเคราะห์ตัวอย่างที่ปราศจากสิ่งที่ต้องการวิเคราะห์ เตรียมโดยใช้น้ำกลั่นและนำไปผ่านกระบวนการเช่นเดียวกับการเตรียมตัวอย่างที่เราจะวิเคราะห์ โดยใช้ reagent เครื่องแก้ว และเครื่องมือเดียวกันกับการวิเคราะห์ตัวอย่าง การวิเคราะห์แบลงค์ชนิดนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาณทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องการวิเคราะห์ ไม่ใช่จาก reagent หรือจากสิ่งอื่นๆที่ใช้ในการวิเคราะห์ประโยชน์ของ รีเอเจนต์ แบลงค์ หรือแบลงค์ของวิธีทดสอบ เพื่อชี้บ่งและแก้ไขความคลาดเลื่อนจากระบบ (systematic error) ที่มาจากความไม่บริสุทธิ์ของรีเอเจนต์ การปนเปื้อนจากเครื่องแก้วหรือเครื่องมือการวิเคราะห์แบลงค์ จะวิเคราะห์ทุกๆ 10-20 % ของจำนวนตัวอย่างในแต่ละชุดตัวอย่าง และถ้าวิเคราะห์ตัวอย่างที่มีความเข้มข้นสูง ๆ อาจต้องวิเคราะห์แบลงค์ตามทันที เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากตัวอย่างนั้นไปยังตัวอย่างถัดไป
7. การเตรียม spiked sample ทำได้โดยวิธีการใด
ตอบ ทำได้โดยการเติมสารมาตรฐานความเข้มข้นสูงๆปริมาณน้อยๆลงในตัวอย่าง (ไม่เกิน 2 % ของปริมาตรตัวอย่าง) เพื่อตรวจสอบ analyte recovery ใน sample matrix หรือถ้ามีการวิเคราะห์ตัวอย่างที่มี matrix ที่แตกต่างไป จะเป็นการทวนสอบปริมาณสารรบกวน สารมาตรฐานที่ใช้ควรมาจากคนละแหล่งกับที่ใช้เตรียมกราฟมาตรฐาน และ spiked sample ควรอยู่ในช่วงเดียวกันกับตัวอย่างที่ทำการวิเคราะห์
8. จงอธิบายวิธีการเตรียม spiked sample
ตอบ วิธีการเตรียม spiked sample มีดังนี้คือ
1. แบ่งสารละลายตัวอย่างที่ต้องการวิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วน เท่าๆกัน ในปริมาณที่เท่ากับที่ใช้ในการตรวจวิเคราะห์ ส่วนแรกใช้เป็นตัวอย่างปกติ ไม่ได้เติมสารมาตรฐานลงไป เรียกว่า ตัวอย่างเริ่มต้น (original sample) อีกส่วนหนึ่งนำมาเติมสารมาตรฐานที่ทราบปริมาณที่แน่นอนลงไป ส่วนนี้เรียกว่า spiked sample
2. เตรียมตัวอย่างทั้ง 2 ส่วนตามขั้นตอนการวิเคราะห์
3. หา % recovery
9. การวิเคราะห์ซ้ำในตัวอย่างเดียวกัน หมายถึงอะไร
ตอบ หมายถึง การวิเคราะห์ตัวอย่างเดียวกันจำนวน 2 ครั้ง เพื่อทดสอบความแม่นยำของผู้ที่ทำการทดสอบ หลังจากนั้นนำผลการทดสอบมาคำนวณหา % ความแตกต่างสัมพัทธ์
10. การวิเคราะห์ check หรือ control sample หมายถึงอะไร
ตอบ หมายถึง ตัวอย่างที่ทำการวิเคราะห์แล้ว มีความคงสภาพ และความสม่ำเสมอ (homogeneity) นำมาทดสอบแทรกเข้าไปในชุดตัวอย่าง
แนวข้อสอบคํานวณ สถิติ
1. ข้อมูลชุดหนึ่งมีดังนี้ 3, 7, 2, 5, 8 และ 10 จงหามัชฌิมเลขคณิตของข้อมูลชุดนี้
วิธีทํา
ค่ามัชฌิมเลขคณิต = ผลรวมของข้อมูลทั้งหมด หารด้วยจํานวนของข้อมูล
X = Σ x /n ถ้าข้อมูลแจกแจงความถี่ใช้ X = Σ fx /n
= (3+7+2+5+8+10) = 5.8
6
2. จากข้อมูลต่อไปนี้ จงหาพิสัยของข้อมูล 100, 121, 99, 87, 86, 82, 111, 118, 120, 83, 170, 109, 130
วิธีทํา
พิสัย = ค่าสูงสุด – ค่าต่ำสุด
170 – 82 = 88
3. มัธยฐาน คือข้อมูลที่มาเรียงลําดับแล้วอยู่ตรงกลาง
เช่น มัธยฐานของข้อมูล 2, 3, 5 ,6,8 คือ 5
มัธยฐานของข้อมูล 1, 4, 5,7,8,9 คือ 5+7 = 6
2
4. ฐานนิยมคือ ข้อมูลที่มีความถี่มากที่สุด
เช่น ฐานนิยมของข้อมูล 3, 8, 5, 6, 4, 5 คือ 5
5. ทอดลูกเต๋าเที่ยงตรง 1 ลูก ให้ E1 เป็นเหตุการณ์ที่ได้แต้มตั้งแต่ 2 ขึ้นไป และให้ E2 เป็นเหตุการณ์ที่ได้แต้มที่หารด้วย 2 ลง
ตัวจงหาตุการณ์ E1 U E2
วิธีทํา
E1 เป็นเหตุการณ์ที่ได้แต้มตั้งแต่ 2 ขึ้นไป จะได้ E1 = {2, 3, 4, 5, 6}
E2 เป็นเหตุการณ์ที่ได้แต้มที่หารด้วย 2 ลงตัว จะได้ E2 = {2, 4, 6 }
E1 U E2 = {2, 3, 4, 5, 6}
6. ทอดลูกเต๋าเที่ยงตรง 1 ลูกให้ E1 เป็นเหตุการณ์ที่ได้แต้มตั้งแต่ 2 ขึ้นไป และให้ E2 เป็นเหตุการณ์ที่ได้แต้มที่หารด้วย 2 ลงตัว
จงหาเหตุการณ์ E1E2
วิธีทํา
E1 เป็นเหตุการณ์ที่ได้แต้มตั้งแต่ 2 ขึ้นไป จะได้ E1 = {2, 3, 4, 5, 6}
E2 เป็นเหตุการณ์ที่ได้แต้มที่หารด้วย 2 ลงตัว จะได้ E2 = {2, 4, 6 }
E1 E2 = {2, 4, 6}
7. ข้อมูลจากตาราง จงหาความน่าจะเป็นที่สุ่มตัวอย่างมา 1 คน พบว่าเป็นมะเร็งและสูบบุหรี่
ความน่าจะเป็น P (C A) = 40/100 = 0.4
8 . ข้อมูลจากตาราง จงหาความน่าจะเป็นที่สุ่มตัวอย่างมา 1 คน พบว่าเป็นมะเร็งหรือสูบบุหรี่
ความน่าจะเป็น P {AU (BC)} = (50+10) /100 = 0.6
9. ทอดลูกเต๋าเที่ยงตรง 2 ลูก ความน่าจะเป็นที่ได้แต้มมีค่ารวมกัน 9 มีค่าเท่ากับเท่าใด
วิธีทํา
จํานวนครั้งของการทอดลูกเต๋า S = 6 x 6 = 36
แต้มลูกเต๋ารวมกันเท่ากับ 9 E = { 3-6, 4-5, 5-4, 6-3} = 4 ครั้ง
ความน่าจะเป็น P(E) = 4/36 หรือ 1/9
10. ทอดลูกเต๋าเที่ยงตรง 2 ลูก ความน่าจะเป็นที่ได้แต้มมีค่ารวมกัน 7 มีค่าเท่ากับเท่าใด
วิธีทํา
จํานวนครั้งของการทอดลูกเต๋า S = 6 x 6 = 36
แต้มลูกเต๋ารวมกันเท่ากับ 7 E = { 1-6, 2-5, 3-4, 4-3, 5-2, 6-1 } = 6 ครั้ง
ความน่าจะเป็น P(E) = 6/36 หรือ 1/6
แนวข้อสอบวิชาเคมี
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้อง
1. มีคำแนะนำให้รับประทานผักบุ้ง และเต้าหู้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ถ้าอาหารกลางวันมื้อหนึ่งรับ
ประมานข้าวกับผักบุ้งผัดน้ำมัน และแกงจืดเต้าหู้หมูสับ อาหารมื้อนี้ได้รับสารชีวโมเลกุลประเภทให้
พลังงานกี่ชนิด อะไรบ้าง
1. 2 ชนิด โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต
2. 3 ชนิด ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต
3. 4 ชนิด ไขมัน โปรตีน กรดนิวคลิอิก และเซลลูโลส
4. 4 ชนิด ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และกรดนิวคลิอิก
เฉลยข้อ 2 3 ชนิด ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต
เหตุผล อาหารที่รับประทาน คือ ข้าวกับผักบุ้งผัดน้ำมันและแกงจืดเต้าหู้หมูสับจะมีสารชีว
โมเลกุล 3 ชนิด คือ ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตเท่านั้นที่ให้พลังงาน
2. จากการทดสอบน้ำมัน 4 ชนิด ปริมาณเท่ากัน กับทิงเจอร์ไอโอดีน ได้ผลดังนี้
จากข้อมูลข้างต้น จงพิจารณาว่า
一. การบริโภคน้ำมันชนิดใดมีโอกาสเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากที่สุด และ
二. น้ำมันชนิดใดที่ใช้ทอดอาหารโดยใช้ไฟอ่อน ไ แต่ใช้เวลานาน แล้วผู้บริโภคปลอดภัยที่สุด
เฉลยข้อ 3
เหตุผล น้ำมันที่ทำปฏิกิริยาไอโอดีนมากจะมีความไม่อิ่มตัวมาก ก่อให้เกิดปัญหาการอุดตันของ
หลอดเลือดหัวใจ (น้ำมัน D) จึงตัดข้อ 1. , 2. ทิ้งไป และจากข้อ 3. และ 4. จะพบว่าสาร B มีความอิ่มตัวมากกว่าสาร D จึงควรเลือกสาร B ดังนั้นจึงตอบข้อ 3
3. ในการทดสอบอาหารเช้าชุดหนึ่ง ได้ผลดังนี้
อาหารที่นำมาทดสอบ น่าจะเป็นอาหารชุดใดต่อไปนี้
1. มันทอด + น้ำอัดลม 2. สลัดผลไม้ + นมเปรี้ยว
1. มันฝรั่งบด + น้ำผลไม้ 4. ขนมปังทาเนย + นมถั่วเหลือง
เฉลยข้อ 4 ขนมปังทาเนย + นมถั่วเหลือง
เหตุผล อาหารที่รับประทานเมื่อนำมาทดสอบด้วยวิธีการต่าง ๆ
พบว่า วิธี ก. จะเป็นทดสอบพวกแป้งพบว่ามีการเปลี่ยนแปลง บอกได้ว่าอาหารมีพวกแป้ง
วิธี ข. จะเป็นทดสอบน้ำตาล พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง
วิธี ค. จะเป็นทดสอบโปรตีน พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง บอกได้ว่า อาหารมีพวกโปรตีน
วิธี ง. จะเป็นทดสอบน้ำมัน/ ไขมัน พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง บอกได้ว่าอาหารมีไขมัน
จากข้อมูลจึงตอบข้อ 4.
4. โปรตีนที่มีสูตรโครงสร้างต่อไปนี้
เฉพาะส่วนที่แสดงนี้ มีพันธะเพปไทด์กี่พันธะ เกิดจากกรดอะมิโนกี่โมเลกุลและมีจำนวนกรดอะมิโน
กี่ชนิด
เฉลยข้อ 2
เหตุผล พันธะเพปไทด์จะเกิดระหว่างธาตุ C กับ N ซึ่ง C ต้องมาจากหมู่คาร์บอนิล (C = 0)
และ N ต้องมาจากหมู่อะมิโน (NH2) และโมเลกุลมีมารวมกันต้องเป้นกรดอะมิโนเท่านั้น ดังนั้นจากโครงสร้างที่กำหนดจะมีพันธะเพปไทด์ 2 พันธะเกิดจากกรดอะมิโน 3 โมเลกุล จำนวน 2 ชนิด จึงตอบข้อ 2.
5. พิจารณาข้อมูลของสาร A B และ C ต่อไปนี้
สาร A B และ C น่าจะเป็นสารใด
เฉลยข้อ 1
เหตุผล จากข้อมูล จะบอกได้ว่า
สาร A จะเป็นพวกแป้งที่พบในสัตว์ที่เรียกไกลโคเจน
สาร B จะเป็นพวกแป้งในพืชที่เรียกเซลลูโลส
สาร C จะเป็นพวกแป้งที่เป็นพืชในเมล็ดและหัว
ดังนั้นจึงตอบข้อ 1.
6. พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. การฉีดอินซูลินเข้าสู่ร่างกายเพื่อเพิ่มกลูโคสในเส้นเลือด
ข. อินซูลินมีหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการเปลี่ยนกลูโคสเป็นไกรโคเจน
ค. คนที่เป็นเบาหวานแสดงว่าร่างกายมีอินซูลินมากเกินไป
ง. คนที่เป็นโรคเบาหวานควรลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล
ข้อใดถูกต้อง
1. ก และ ข 2. ข และ ง
3. ค และ ง 4. ข และ ค
เฉลยข้อ 1
เหตุผล ข้อ ค. ผิด ควรเป็นคนที่เป็นเบาหวานแสดงว่า ร่างกายขาดอินซูลินซึ่งจะเป็นตัวเปลี่ยน
กลูโคสให้เป็นไกลโคเจน ทำให้มีกลูโคสมากเกินไปเป็นสาเหตุแห่งการเกิดโรคเบาหวาน
ข้อ ง. ผิด ควรเป็นคนที่เป็นโรคเบาหวานควรลดอาหารประเภทแป้ง
7. ในการกลั่นน้ำมันดิบ ผู้ประกอบการจะใช้การกลั่นลำดับส่วนแทนที่จะใช้การกลั่นแบบธรรมดา ข้อใด
คือเหตุผลหลัก
1. ในน้ำมันดิบมีสารที่มีจุดเดือดใกล้เคียงกันจึงแยกการกลั่นแบบธรรมดาไม่ได้
2. การกลั่นแบบธรรมดาต้องใช้เชื้อเพลิงมากกว่าการกลั่นลำดับส่วน
3. การกลั่นแบบธรรมดาจะได้สารปรอทและโลหะหนักออกมาด้วย
4. การกลั่นลำดับส่วนจะไม่มีเขม่าที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
เฉลยข้อ 1
เหตุผล ในการกลั่นน้ำมันดิบจะใช้วิธีกลั่นลำดับส่วน เนื่องจากน้ำมันดิบจะมีของผสมหลายชนิด
ปนกันอยู่ซึ่งมีจุดเดือดใกล้เคียงกันตั้งแต่สถานะเป็นก๊าซ ของเหลว และของแข็ง
8. พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. LPG เป็นแก๊สหุงต้มและสามารถปรับใช้แทนน้ำมันเบนซินได้
ข. เลขออกเทนใช้บอกคุณภาพของน้ำมันเบนซิน ส่วนเลขซีเทนใช้บอกคุณภาพของน้ำมันดีเซล
ค. แก๊สโซฮอล์เป็นเชื้อเพลิงที่ได้จากการผสมเมทานอล (แอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง) กับน้ำมัน
เบนซินในอัตราส่วน 1 : 9
三. MTBE เป็นสารที่เติมลงในน้ำมันเบนซินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และเรียกว่าน้ำมัน
ไร้สารตะกั่ว
ข้อใดถูกต้อง
1. ก และ ข เท่านั้น 2. ค และ ง
3. ก ข และ ค 4. ก ข และ ง
เฉลยข้อ 4
เหตุผล ข้อ ก. ถูก เนื่องจาก LPG (Liquid Petroleum Gas) เป็นพวก C3H8 และ C4H10 สามารถ
ใช้แทนน้ำมันเบนซินได้
ข้อ ข. ถูก
ข้อ ค. ผิด ควรเป็นแก๊สโซฮอลเป็นเชื้อเพลิงที่ได้จากการผสมอัลกอฮอล์กับน้ำมัน
เบนซินในอัตราส่วน 1 : 9 ซึ่งใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซิน 95
ข้อ ง. ถูก เนื่องจาก MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) ใช้เติมในน้ำมัน เพื่อช่วยเพิ่ม
ค่าออกเทนแทนสารตะกั่ว เรียกน้ำมันไร้สารตะกั่ว (Unleaded Gasoline)
9. ข้อใดจัดประเภทของพลาสติกได้ถูกต้อง
เฉลยข้อ 3
เหตุผล ข้อ 1. ผิด เนื่องจากเก้าอี้พลาสติกเป็นเทอร์มอพลาสติก
ข้อ 2. ผิด เนื่องจากดอกไม้พลาสติกเป็นเทอร์มอพลาสติก
ข้อ 4. ผิด เนื่องจากด้ามเตารีดเป็นพลาสติกเทอร์มอพลาสติก
10. โครงสร้างของพลาสติกในข้อใดที่ไม่สอดคล้องกับสมบัติของพลาสติกนั้น
เฉลยข้อ 4
เหตุผล ข้อ 1. , 2 และข้อ 3. ถูกต้อง
ข้อ 4. ผิด เนื่องจากพลาสติกที่ได้รับความร้อนไม่อ่อนตัว จะมีโครงสร้างแบบตาข่าย