หมอลำซิ่ง เป็นดนตรีพื้นบ้านอีสานที่ผสมผสานระหว่างลำซิ่ง หมอลำ และดนตรีลูกทุ่ง มักใช้ในงานรื่นเริงต่างๆ เช่น งานวัด งานประจำปี งานบวช
วงดนตรีหมอลำซิ่ง ประกอบด้วยเครื่องดนตรีหลัก ดังนี้
แคน: เป็นเครื่องดนตรีประจำชาติลาว ทำจากไม้ไผ่ มีเสียงไพเราะ
พิณ: เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด มีเสียงกังวาน นิยมใช้บรรเลงเพลงพื้นบ้าน
กลอง: เป็นเครื่องดนตรีให้จังหวะ มีหลายขนาด
ฉิ่ง ฉาบ: เป็นเครื่องดนตรีให้จังหวะ
เครื่องดนตรีอื่นๆ: เช่น โปงลาง โหวด
วงดนตรีหมอลำซิ่ง มีทั้งแบบวงเล็กและวงใหญ่
-วงเล็ก: ประกอบด้วยนักดนตรี 3-5 คน
-วงใหญ่: ประกอบด้วยนักดนตรี 10-20 คน
หน้าที่ของนักดนตรีในวงหมอลำซิ่ง
-นักร้อง: ร้องเพลงลำซิ่ง
-นักดนตรี: เล่นเครื่องดนตรีต่างๆ
-พิธีกร: พูดคุย เล่นมุขตลก
ประเภทของวงดนตรีหมอลำซิ่ง
-หมอลำซิ่งแบบดั้งเดิม: ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้าน
-หมอลำซิ่งแบบประยุกต์: ใช้เครื่องดนตรีสากลผสมผสานกับเครื่องดนตรีพื้นบ้าน
-หมอลำซิ่งแบบลูกทุ่ง: เน้นเพลงลูกทุ่ง
วงดนตรีหมอลำซิ่งที่มีชื่อเสียง
-วงหมอลำซิ่งเสียงอิสาน
-วงหมอลำซิ่งประจักษ์ชัย
-วงหมอลำซิ่งคำผุน ม่วนคัก
-วงหมอลำซิ่งน้องนุช
-วงหมอลำซิ่งมนต์แคน แก่นคูน
รำวงย้อนยุค
รำวงย้อนยุค เป็นการละเล่นพื้นบ้านของไทยที่มีวิวัฒนาการมาจากรำโทน นิยมเล่นกันในงานรื่นเริงต่างๆ เช่น งานวัด งานประจำปี งานบวช โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ท่ารำที่เรียบง่าย สนุกสนาน เน้นความรื่นเริง และใช้เครื่องดนตรีไทยแบบดั้งเดิม เช่น โทน ฉิ่ง ฉาบ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้อง กลอง เป็นต้น
ลักษณะ ของรำวงย้อนยุค:
-ท่ารำ: เรียบง่าย สนุกสนาน เน้นความรื่นเริง ประกอบไปด้วยท่ารำพื้นฐาน เช่น การก้าวเท้า การยักไหล่ การยื่นแขน การเขย่าสะโพก ฯลฯ
-เครื่องดนตรี: ใช้เครื่องดนตรีไทยแบบดั้งเดิม เช่น โทน ฉิ่ง ฉาบ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้อง กลอง เป็นต้น
-เพลง: นิยมใช้เพลงไทยลูกทุ่ง เพลงพื้นบ้าน เพลงสนุกสนาน เช่น เพลงช่อมาลี เพลงยวนยาเหล เพลงหล่อจิงนะดารา เพลงตามองตา เพลงใกล้เข้าไปอีกนิด ฯลฯ
-การแต่งกาย: แต่งกายแบบไทยย้อนยุค ผู้หญิงสวมชุดไทยจิตรลดา ผู้ชายสวมชุดไทยพระราชทาน หรือเสื้อลายดอก กางเกงขายาว
ประวัติ ของรำวงย้อนยุค:
รำวงย้อนยุคมีวิวัฒนาการมาจากรำโทน ซึ่งเป็นการละเล่นพื้นบ้านของชาวภาคกลาง นิยมเล่นกันในงานรื่นเริงต่างๆ
ในสมัยรัชกาลที่ 7 จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ริเริ่มให้มีการรำวงมาตรฐานขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมความสามัคคีของคนไทย
รำวงย้อนยุคได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วง พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา โดยมีการดัดแป